วันนี้ (14 ส.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง สล็อตแตกง่ายโฆษกตร. ได้เผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้ร่วมลอบวางระเบิดรอบพื้นที่กทม.ว่า ศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 4 รายคือ นายอัสมี อาบูวะ, นายอุสมาน เปาะลอ, นายอัมรี มะมิง และ นายฮาเเซ แบเล๊าะ
โดยขณะนี้มีผู้ที่ศาลอนุมัติหมายจับทั้งหมดรวม 6 ราย
ซึ่งมีสองรายที่ถูกจับไปแล้วก่อนหน้านี้คือ นายลูไอ แซแง และนายวิลดัน มาหะ (ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 2 ส.ค.) และทั้งหมดมีความผิดข้อหาเป็นอั้งยี่, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์,กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น, ทำ ใช้ มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ พกพาอาวุธ(ระเบิด)ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดที่มีอายุความ 20 ปี และมีอัตราโทษสูง
ในส่วนของข้อหาก่อการร้ายนั้น ทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งต่อกองบังคับการปราบปรามให้เป็นผู้ดำเนินคดีข้อหาดังกล่าว
นอกจากนี้ คดีนี้ ผบ.ตร. ได้กำชับให้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนทำงานแข่งกับเวลา ยึดระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนหลักสิทธิมนุษยชน เป็นสำคัญ โดยจะต้องไม่มีการจับแพะอย่างเด็ดขาด
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า อยากขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในทีมงานของผบ.ตร. และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ที่ได้แต่งตั้งขึ้นมาทำงาน ซึ่งได้ทำงานกันอย่างเต็มความสามารถ และได้ระดมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาทำงานร่วมกันอย่างไม่มีวันหยุดพัก และได้ใช้หลักนิติวิทยานศาสตร์มาช่วยเชื่อมโยงพิสูจน์ถึงการกระทำความผิด หากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแสที่เกี่ยวข้อง สามารถแจ้งหรือส่งข้อมูลมายังหมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชม. ในทุกพื้นที่
แต่คดีก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ และตนก็ก็ได้ยินมาว่าหนึ่งในสองคนรู้จักกับคนมีสี อีกทั้งก่อนหน้านี้ตำรวจเคยเชิญตัวทั้งสองไปแต่ก็ปล่อยตัวออกมา โดยอ้างว่ายังไม่เป็นคดีความ ตนจึงเกรงว่าลูกจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับวัยรุ่นทั้งสองอย่างถึงที่สุด
ด้าน ด.ญ.บี เล่าว่าตนถูกลากลงจากรถจักรยานยนต์และบังคับให้ดื่มสุรา ขณะที่เพื่อนตกใจกลัวจึงขี่รถจกัรยานยนต์หนีไป ตนกลัวจึงต้องทำตาม ก่อนจะถูกลากไปข่มขืน และยืนยันว่าตนไม่รู้จักคนทั้งสองมาก่อน
พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องร้องทุกข์ไว้แล้ว และสั่งการให้พนักงานสอบสวนชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น และให้เรงรัดคดีโดยเร็วที่สุด ขณะที่พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ ผกก.สภ.กมลไสย กล่าวว่า พนักงานสอบสวนของคดีนี้ได้เชิญตัววัยรุ่นทั้งสองคือ เยาวชนอายุ 18 ปี และนายวุฒิพงษ์ อายุ 22 ปี เข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว คือ พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง เพื่อการอนาจาร, พาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจารและกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี
โดยทั้งสองรับสารภาพ จึงได้ปล่อยตัวไปชั่วคราว เนื่องจากยังต้องสอบปากคำผู้เสียหายร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และที่ผ่านมาผู้เสียหายก็ไม่พร้อมจะให้ปากคำ จึงยังไม่สามารถสอบได้ แต่ยืนยันว่าจะเร่งรัดคดี และมีนัดสอบปากคำผู้เสียหายวันที่ 15 ส.ค.นี้
รวบ 2 พ่อค้ายาบ้า พร้อมของกลางยาบ้า 2 ล้านเม็ด ไอซ์อีก 15 กก.
วานนี้ (13 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) มีการแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ประกอบด้วย นายกรีฑา หรือไอซ์ โพธิ์ปลุก อายุ 22 ปี และนายบัณฑิต หรือตั้ม กองแก้ว อายุ 32 ปี ซึ่งถูกรวบตัวได้พร้อมของกลางยาบ้า 2,000,000 เม็ด ยาอี 4,000 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนัก 15 กก. และเคตามีนแบบผงน้ำหนัก 1 กก.
ตำรวจทราบเบาะแสว่ามีพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ กำลังจะลำเลียงยาล็อตใหญ่มาจากอ.องครักษ์ จ.นครนายก โดยจะมาพักยาไว้ที่บ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านสัมมากร ถนนรามคำแหง ซอย 112 เขตสะพานสูง กทม. ตำรวจจึงเฝ้าสังเกตการณ์ และพบนายกรีฑา ขับรถกระบะ ทะเบียน ถฐ 2301 โดยมีนายบัณฑิต ขับรถกระบะ ทะเบียน ญร 5989 นำทางเพื่อระวังด่านตำรวจ
รถสองคันนี้ขับออกมาจากหมู่บ้านสัมมากร มุ่งหน้าไปถนนรังสิต-นครนายก ตำรวจจึงได้สะกดรอยตาม จนกระทั่งรถสองคันไปจอดที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในอ.องค์รักษ์ ก่อนจะขับต่อไปรับยาเสพติดจากทีมลำเลียงภายในซอยเปลี่ยว ซึ่งอยู่ห่างจากปั๊มดังกล่าว 5 ก.ม.
ต่อมา รถทั้งสองคันเข้าไปจอดที่ลานจอดรถหน้าห้างค้าปลีก-ส่ง ปากซอยรามคำแหง 110 และนายกรีฑาได้ขับรถกระบะ เข้ามากลางซอยหมู่บ้านสัมมากร ตำรวจจึงสะกดรอยตามและเข้าแสดงตัวตรวจค้นภายในรถ จึงพบยาบ้าประทับตรา 999 จำนวน 1,000 มัด รวม 2,000,000 เม็ด และจับกุมนายบัณฑิต ขณะขับรถกระบะอยู่บริเวณริมถนนคู่ขนานกรุงเทพ-ชลบุรี ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับที่เกิดเหตุ
หลังจากจับกุมชายทั้งสองแล้ว ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นบริเวณป่าหลังเพิงพักในชุมชนแออัด หมู่บ้านสัมมากรซอย 56 ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของนายบัณฑิต และพบยาไอซ์ ยาอี และยาเคตามีน ซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ โดยมีไม้กระดานปิดทับเอาไว้
ด้านนายกรีฑา ยอมรับสารภาพว่า เคยรับจ้างขนยาและซุกซ่อนยาเสพติด 1,000,000 เม็ด ได้รับค่าจ้างจำนวน 100,000 บาท และสมัยยังเป็นเยาวชนเคยถูกจับคดียาเสพติด ทำให้ได้รู้จักเพื่อนชื่อ ‘จ้อน’ ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง ซึ่งเป็นผู้แนะนำงานขนส่งและซุกซ่อนยาเสพติดนี้ให้ตน จากนั้นตนจึงได้ชักชวนนายบัณฑิต หรือตั้ม ที่อาศัยอยู่ในละแวกเดียวกันมาทำงานด้วยกันสล็อตแตกง่าย